ป.ป.ช.จัดสัมมนาสื่อวิทยุช่อสะอาดพิชิตการโกง

Last updated: 12 ธ.ค. 2560  |  2742 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ป.ป.ช.จัดสัมมนาสื่อวิทยุช่อสะอาดพิชิตการโกง

ป.ป.ช.จัดสัมมนาสื่อวิทยุช่อสะอาดพิชิตการโกง
เพื่อส่งเสริมค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริตให้เกิดขึ้นในสังคม

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จังหวัดนนทบุรี จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “องค์กรสื่อวิทยุช่อสะอาดกับภารกิจพิชิตโกง และรวมพลลดอุบัติเหตุทางถนน” ซึ่งมีนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพิธี
 
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.
 
นายปานเทพ กล่าวว่า โครงการสัมมนาดังกล่าวนั้นเพื่อส่งเสริมค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริตให้เกิดขึ้นในสังคม เผยแพร่ภารกิจด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจิตของสำนักงาน ป.ป.ช. และเพิ่มศักยภาพและบทบาทการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนตามแนวจริยธรรมวิชาชีพ และรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงในด้านต่างๆ และการระดมความคิดจากผู้ประกอบการวิทยุกระจายสียงในนามเครือข่ายสื่อวิทยุช่อสะอาด พร้อมในการทำงานอย่างประสานกันอย่างเป็นระบบ โดยสมาคมสื่อช่อสะอาดจะมุ่งมั่นในสร้างมาตรฐานจรรยาบรรณให้เข้มแข็ง
 
 
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกาพิเศษเรื่อง “สื่อวิทยุช่อสะอาดกับภารกิจพิชิตโกง” ว่า การทำงานของ ป.ป.ช. นั้นไม่ใช่เป็นการทำงานแบบกระบวนการตีปีบ ถึงแม้ว่าทางเราจะต้องถูกฟ้องร้องหลายครั้งแล้วก็ตามอย่างตนและประธานป.ป.ช.ที่ถูกฟ้องร้องมาโดยตลอด จึงทำให้เราต้องทำงานอย่างรอบคอบและนำตัวผู้กระทำความผิดมาให้ได้ เพราะถ้าไม่เช่นนั้นจะมี ป.ป.ช. ไว้เพื่ออะไร ส่วนงานภารกิจของทาง ป.ป.ช. ที่มีอยู่นั้นมี 3 ด้าน คือ การบังคับใช้กฎหมาย การให้ความรู้ชุมชน และการเฝ้าระวัง เมื่อพูดถึงเรื่องของงานด้านภารกิจให้ความรู้กับชุมชนคือการให้ประชาชนได้เห็นถึงภาพของการทุจริตนั้นเกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใดและให้เห็นว่าการทุจริตมีความชั่วร้ายมากด้วย เช่น กรณีการทุจริตสนามฟุตซอล เพราะด้วยการที่อยากให้มีสนามฟุตซอลไปอย่างทั่วถึงในส่วนของโรงเรียน แต่หารู้ไม่ว่าในการทำโครงการดังกล่าวนั้นได้มีการกำหนดไว้แล้วว่าจะให้บริษัทไหนเข้ามาจัดการก่อสร้าง โดยไม่คำนึงถึงวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆในการจะจัดก่อสร้าง นั้นก็ถือว่าเป็นการโกงเด็ก เยาวชน โรงเรียน และการศึกษา พร้อมเชื่อว่าความจริงเท่านั้นที่จะพิชิตการโกงได้เป็นอย่างดี
 
ส่วนงานด้านการเฝ้าระวัง คือเมื่อชุมชนนั้นได้งบประมาณมาแล้ว เช่นการสร้างถนนในชุมชนได้งบประมาณมาเท่าไรต้องบอกกล่าวให้ประชาชนได้รับรู้ด้วย และติดตามว่าบริษัทไหนเป็นผู้ได้รับการรับเหมาในการสร้างครั้งนี้รวมทั้งติดตามผู้บริหารท้องถิ่นด้วย เพื่อจะให้ได้เห็นถึงความเสี่ยงที่จะมีมากน้อยในการทุจริต ฉะนั้น 3 กระบวนการนั้นจึงไม่สามารถแยกออกจากกันได้
 
นายวิชา กล่าวอีกว่า เอาความจริงตีแผ่ความชั่วร้ายของการโกง เมื่อพูดถึงความจริงเท่านั้นที่จะปราบการโกงได้และให้เห็นว่าป.ป.ช.ไปปราบการโกงแล้วเกิดความยากลำบากอย่างไรบ้าง แต่ละคดีนั้นต้องประสบปัญหายุ่งยากเพียงใด เช่น นั้นอย่างกรณีศาลฎีกาได้มีวินิจฉัยว่าพ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือ โอ๋สืบ6 อดีตผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดที่ทำร้ายกลุ่มประชาชนกลุ่มต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากกรณีเมื่อปี 2549 โอ๋สืบ6 ได้สั่งการให้กลุ่มคนมาทำร้ายประชาชนผู้มาชุมนุมต้านพ.ต.ท.ทักษิณ ในรัฐบาลชุดนั้น แต่ด้วยในการชุมนุมนั้นตามกฎหมายจะต้องไดรับการคุ้มครอง แต่ยังมีคนแก่ถูกทำร้ายด้วย ทางป.ป.ช. ก็ได้มีการชี้มูลความผิดว่ากระบวนการที่ได้มีการสั่งให้มีการทำร้ายนั้นเป็นกรบวนการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเป็นช่วงที่ตนได้มารับหน้าที่กรรมการป.ป.ช. และถือเป็นงานที่ใหญ่มาก และคำตัดสินของศาลก็ได้ตัดสินให้ผู้กระทำความผิดจำคุก 2 ปี แต่เป็นการรอลงอาญา แต่ยังไม่จบการทำงานในครั้งนี้เพราะผู้กระทำผิดได้เปลี่ยนชื่อแล้วกลับมาฟ้องร้องป.ป.ช. โดยอ้างว่าป.ป.ช.มีการชี้มูลที่ไม่ชอบ ดังนั้นทุกการทำงานของป.ป.ช.ในการชี้มูลคดีต่างๆนั้นย่อมมีการพลิกแพลงในคดีเสมอ
 
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์สยามรัฐ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้