จำคุก 85 ปี เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับบัญชีส่วย สถานบริการนาตารี

Last updated: 30 ส.ค. 2565  |  3601 จำนวนผู้เข้าชม  | 

จำคุก 85 ปี เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับบัญชีส่วย สถานบริการนาตารี

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับบัญชีส่วย สถานบริการนาตารี อาบ อบ นวด ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ท. ชี้มูลความผิด ลงโทษจำคุก รวม 85 ปี

          สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2559 สำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับแจ้งจากกรมการปกครอง ให้เข้าร่วมสนธิกำลังกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเข้าทำการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดที่สถานบริการนาตารีเอ็นเตอร์เทนเมนต์ อาบอบนวด แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร และจากการเข้าพื้นที่ดังกล่าว พบการลักลอบนำหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณี จำนวน 15 คน ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการกระทำความผิดฐานการค้ามนุษย์ และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสมุดบัญชีหลักฐานการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐหลายหน่วย ซึ่งต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้พิจารณาชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 4 ราย และราษฎร จำนวน 1 ราย และพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องคดีอาญาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้มีคำพิพากษา เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 18/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อท 12/2565 โดยพิพากษาว่า ดาบตำรวจ ส. ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อาศัยโอกาสที่ตนมีอำนาจหน้าที่สืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย กระทำการเรียกหรือรับทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมายจากสถานบริการอาบอบนวดดังกล่าว จำนวน 65 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 641,000 บาท ลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 65 กระทง รวมจำคุก 325 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี

          และเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 นาฬิกา ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้อ่านคำพิพากษา เป็นคดีหมายเลขดำ ที่ อท 29/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อท 110/2565 โดยพิพากษาว่า ดาบตำรวจ ย. ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อาศัยโอกาสที่ตนมีอำนาจหน้าที่สืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย กระทำการเรียกหรือรับทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จากสถานบริการนาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด เพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่ดำเนินการสืบสวนคดีอาญาและเข้าตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญา จำนวน 17 ครั้ง ครั้งละ 76,000 – 79,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,301,000 บาท โดยมีราษฎร เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด จำนวน 1 ราย การกระทำของ ดาบตำรวจ ย. จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 173 ลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี รวม 17 กระทง รวมจำคุก 85 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปี โดยไม่รอการลงโทษ สำหรับราษฎร มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ลงจำคุก กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 3 กระทง ให้การรับสารภาพ จึงให้ลงโทษจำคุกเหลือ 3 ปี 24 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ

          ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ท. ให้ความตระหนักถึงความสำคัญในนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และจากผลการดำเนินคดีดังกล่าว มีส่วนทำให้สถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทย ได้ถูกปรับการจัดลำดับจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ให้อยู่ในลำดับ เทียร์ 2 (Tier 2) ทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่ดีขึ้น

          หมายเหตุ คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาแล้วในคราวประชุมครั้งที่ 100/2562 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562, ครั้งที่ 36/2563 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 และครั้งที่ 29/2563 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 มีมติชี้ว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมาตรา 123/2 ต่อมาพนักงานอัยการยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้