คดีที่ 2 จำคุก 4 ปี 12 เดือน อดีตนายก อบต.ขุนทอง อ.บัวใหญ่ เอื้อประโยชน์ผู้รับจ้าง-ได้รอลงอาญา

Last updated: 13 พ.ย. 2565  |  2868 จำนวนผู้เข้าชม  | 

คดีที่ 2 จำคุก 4 ปี 12 เดือน อดีตนายก อบต.ขุนทอง อ.บัวใหญ่ เอื้อประโยชน์ผู้รับจ้าง-ได้รอลงอาญา

เผยแพร่ความคืบหน้าคดีที่ 2 กล่าวหา 'ยศวริศ หรือ ศุกฤษณพงศ์ ศิริศักดิ์' อดีตนายกอบต.ขุนทอง อ.บัวใหญ่ โคราช เอื้อประโยชน์ผู้รับจ้าง 3 โครงการ  ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 กระทง 4 ปี 12 เดือน ได้รอลงอาญาอีก หลังรับสารภาพ - ป.ป.ช.ค้าน อสส.ไม่อุทธรณ์สู้

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายยศวริศ หรือ ศุกฤษณพงศ์ ศิริศักดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขุนทอง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา กับพวก เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับจ้างในโครงการขุดลอกสระหนองโพธิ์ หมู่ที่ 9 บ้านโคกสว่าง, โครงการขุดลอกสระหนองโสกชะนี หมู่ที่ 10 บ้านหนองหว้าเอน และโครงการจัดซื้อถังน้ำ ขนาด 2,000 ลิตร 

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 , พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 7, 11 และ 12  ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า นายยศวริศ หรือ ศุกฤษณพงศ์ ศิริศักดิ์ จำเลย  มีความผิด ลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปี ปรับกระทงละ 160,000 บาท 

จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ.มาตรา 78 

คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน และปรับกระทงละ 80,000 บาท

รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 ปี 12 เดือน และปรับ 160,000 บาท 

โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี 

ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากอีกคดี เนื่องจากศาลยังมิได้มีคำพิพากษา และคดีนี้ศาลรอการลงโทษจำคุก จึงไม่อาจนับโทษต่อได้ 

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 มีมติไม่เห็นชอบในการที่ให้อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ในส่วนให้รอการลงโทษ

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วน พ.ร.บ. ฮั้ว มาตรา 12 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้