คุก 3 ปี อดีตนายก อบต.วังลึก สุพรรณบุรี เอาญาติรองนายกฯ เป็นคู่สัญญา

Last updated: 12 ก.พ. 2566  |  6142 จำนวนผู้เข้าชม  | 

คุก 3 ปี อดีตนายก อบต.วังลึก สุพรรณบุรี เอาญาติรองนายกฯ เป็นคู่สัญญา

เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'หวัง ปั้นทองคำ' อดีตนายก อบต.วังลึก สุพรรณบุรี นำญาติรองนายกฯ เป็นคู่สัญญาซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน-ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเก่าแทนของใหม่ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี พวก 2 ราย โดนคนละ 2 ปี  แต่ได้รอลงอาญา - ป.ป.ช. ค้าน อสส.ไม่อุทธรณ์สู้ต่อ

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายหวัง ปั้นทองคำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังลึก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี กับพวก คือ นายธวัช จำปาเงิน , ห้างหุ้นส่วนจำกัด เทพทวี , นางสาวเสาวนีย์ เริงแกษตรกรณ์  จ้างเหมาซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านวังลึก โดยนำญาติของรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังลึกเข้าเป็นคู่สัญญา และเบิกจ่ายเงินตามโครงการดังกล่าวโดยไม่ได้นำเงินที่เบิกจ่ายไปจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ (ซับเมอร์ส) แต่นำเครื่องสูบน้ำ (ซับเมอร์ส) เครื่องเก่ามาติดตั้งแทน

ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ. 151, 157 และ 162 (1) , (4) ประกอบมาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นายหวัง ปั้นทองคำ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 ,  นายธวัช จำปาเงิน จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 , 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86  

ส่วน นางสาวเสาวนีย์ เริงแกษตรกรณ์  จำเลยที่ 4 มีความผิดตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 , 162 (1) (4)  ประกอบมาตรา 86

การกระทำของ จำเลยที่ 2 และที่ 4 เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 151  ประกอบมาตรา 86 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด

สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ลงโทษ จำคุก 6 ปี และปรับ 30,000 บาท, จำเลยที่ 2 และที่ 4 ให้ลงโทษจำคุกคนละ 4 ปี และปรับคนละ 20,000 บาท

จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามมาตรา 78 ให้คนละกึ่งหนึ่ง

คงจำคุกนายหวัง ปั้นทองคำ  จำเลยที่ 1  มีกำหนด 3 ปี และปรับ 15,000 บาท

จำคุกนายธวัช จำปาเงิน จำเลยที่ 2 และนางสาวเสาวนีย์ เริงแกษตรกรณ์  จำเลยที่ 4  มีกำหนดคนละ 2 ปีและปรับคนละ 10,000 บาท

ให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29 , 30

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ลงมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ในส่วนให้รอการลงโทษ 

สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้